อธิบาย ระบบนิเวศ (Ecosystem)หมายถึง ระบบความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต
ทั้งในด้านโครงสร้าง และหน้าที่ ระบบนิเวศมีขนาดต่างๆ กัน ตั้งแต่ขนาดเล็กมากเท่าหยดน้ำจากสระน้ำหยดหนึ่ง (สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในนั้น) จนถึงขนาดใหญ่มากเท่ามหาสมุทร ระบบนิเวศทุกขนาดประกอบขึ้นเป็นโลกเรา
ที่มา http://student.nu.ac.th/u46411054/lesson2.htm
อธิบาย ก็ได้ทราบกันอยู่แล้วว่าว่าพืชมีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ สามารถนำพลังงานแสงมาตรึงคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างเป็นอาหารเก็บไว้ในรูปสารอินทรีย์ โดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง นอกจานี้ยังทราบอีกว่าในใบพืชมีคลอโรฟิลล์ ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง และผลผลิตที่ได้คือ คาร์โบไฮเดรต น้ำ และออกซิเจนและยังได้ทราบว่าพืชมีโครงสร้างที่เหมาะสมต่อการทำงานได้อย่างไร
ที่มา http://nd-biology.tripod.com/mysite/nd_biology_11.html
ตอบ 2.
อธิบาย CFCs หรือ Chlorofluoro carbons คือ
เมื่อ CFCs เข้า
ที่มา http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi3/air-energy/cfcs.htm
ตอบ 4.
อธิบาย ไวรัสทั่วไปตามธรรมชาติจำเป็นต้องเข้าไปเจริญและทวีแพร่พันธุ์ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น โดยยีนของไวรัสและยีนของเซลล์ที่เพาะเลี้ยงไวรัสต้องมีกลไกสอดคล้องต้องกัน ไวรัสจะสามารถเจริญแพร่พันธุ์สร้างไวรัสใหม่ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์และชนิดของไวรัส ดังนั้น แต่ละชนิดของไวรัสจึงทำให้เกิดโรคเฉพาะมนุษย์ สัตว์ แมลง พืช สาหร่ายสีน้ำ เงิน รา หรือบัคเตรีต่างๆ กัน
ที่มา http://guru.sanook.com/encyclopedia/à¸à¸²à¸£à¹€à¸ˆà¸£à¸´à¸à¸žà¸±à¸™à¸˜à¸¸à¹Œà¸‚à¸à¸‡à¹„วรัส/
อธิบาย
คลอโรพลาสต์ ( chloroplaast) เป็นพลาสติด ที่มีสีเขียว พบเฉพาะในเซลล์พืช และสาหร่าย เกือบทุกชนิด พลาสติคมีเยื่อหุ้มสองชั้น ภายในโครงสร้างพลาสติค จะมีเม็ดสี หรือรงควัตถุบรรจุอยู่ ถ้ามีเม็ดสีคลอโรฟิลล์ ( chlorophyll) เรียกว่า คลอโรพลาสต์ ถ้ามีเม็ดสีชนิดอื่นๆ เช่น แคโรทีนอยด์ เรียกว่า โครโมพลาส ถ้าพลาสติคนั้นไม่มีเม็ดสี เรียกว่า ลิวโคพลาสต์ ( leucoplast) ทำหน้าที่ เป็นแหล่งเก็บสะสมโปรตีน หรือเก็บสะสมแป้ง ที่เรียกว่า เม็ดสี ( starch grains) เรียกว่า amyloplast
ที่มา http://student.nu.ac.th/phitsanu_edu/cell_plant.htm
ตอบ 1.
อธิบาย
ที่มา http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=236341&chapter=2
ตอบ 3.
อธิบาย
ที่มา http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=236341&chapter=2
ตอบ 1.
อธิบาย น้ำปัสสาวะเป็นของเหลวที่ผลิตจากไต มีสีค่อนข้างเหลือง มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 95% และมีของแข็งประมาณ 5% ในจองแข็งที่เป็นส่วนประกอบมีทั้งส่วนที่เป็นสารอินทรีย์และ ส่วนที่เป็นสารอนินทรีย์ ได้แก่ ยูเรีย แอมโมเนีย น้ำตาล โซเดียม คลอไรด์ แคลเซี่ยม และแมกนี
เซี่ยมเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันบางชนิด และฮอร์โมนบางชนิดด้วย สีของน้ำปัสสาวะเป็นสี ที่เกิดจากน้ำดี ค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำปัสสาวะจะขึ้นกับปริมาณของเกลือแร่หรือแร่ธาตุต่างๆ และปริมาณน้ำที่เป็นส่วนประกอบ
ที่มา http://om-yim-waan.blogspot.com/2009/05/blog-post_16.html
ตอบ 4.
อธิบาย ผิวหนังปกคลุมห่อหุ้มร่างกายทั้งหมด ซึ่งภายในมีปลายประสาทรับความรู้สึกมากมาย เพื่อรับรู้การสัมผัส การกดความเจ็บ และอุณหภูมิร้อนเย็น ระบบผิวหนังมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และยังมีหน้าที่เป็นอวัยวะขับเหงื่อและไขมันด้วย
ที่มา http://guru.sanook.com/encyclopedia/ระบบผิวหนัง/
ตอบ 3.อธิบาย โปรโตซัวและสัตว์หลายเซลล์ชั้นต่ำบางชนิด ไม่มีอวัยวะทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียที่เป็นของเหลว ของเสียดังกล่าวสามารถซึมผ่านผิวเซลล์ออกสู่น้ำที่อยู่นอกตัวมันได้โดยตรงอย่างไรก็ตาม มีเซลล์เดียวหลายชนิดที่มีโครงร่างในเซลล์เรียก คอนแทรกไทล์แวคิวโอล ทำหน้าที่สำหรับขจัดของเสียที่เป็นของเหลวจากเซลล์ โดยดูดของเหลวที่เป็นของเสียมาสะสมเอาไว้ และเมื่อมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยไปจนถึงขีดหนึ่ง จะบีบตัวขับของเหลวในแวคิวโอลออกสู่ภายนอกเซลล์ ดังนั้น คอนแทรกไทล์แวคิวโอล จึงทำหน้าที่กำจัดน้ำที่มีมากเกินต้องการออกนอกร่างกาย และบางส่วนของของเสียที่เกิดจากเมตาโปลิซึมของโปรตีนก็อาจขับออกทางนี้ได้ด้วย
ที่มา http://guru.sanook.com/search/คà¸à¸™à¹à¸—รà¸à¹„ทล์à¹à¸§à¸„ิวโà¸à¸¥_(Contractile_Vacuole)_ขà¸à¸‡à¹‚ปรโตซัว
ตอบ 2
อธิบาย เมื่อร่างกายได้รับความร้อนจากสิ่งแวดล้อม จนทำให้อุณหภูมิที่ผิวหนังกับอุณหภูมิของเลือดสูงกว่าปกติศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายที่สมองส่วนไฮโพทาลามัสจะกระตุ้นให้เกอดกระบวนการต่างๆ เพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายให้กลับเป็นปกติ มีการลดอัตราเมแทบอลิซึมลดความการเผาผลาญอาหารในเซลล์ตับและเซลล์ไขมันหลอดเลือกฝอยบริเวณผิวหนังจะขยายตัว เพื่อช่วยถ่ายเทความร้อนในร่างการสู่สิ่งแวดล้อม มีการกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อให้ขับเหงื่อเพิ่มขึ้นกล้ามเนื้อที่ยึดโคนเส้นขนในผิวหนังจะคลายตัว เราจึงเห็นขนเอนราบติดผิวหนัง ช่วยให้อากาศไหลเวียนบริเวณผิวหนังได้ดีขึ้นความร้อนจึงถ่ายเทสู่สิ่งแวดบ้องได้มากขึ้น
ที่มา http://km.vcharkarn.com/other/mo6/48-2010-06-30-08-15-30
ตอบ 3.
คำอธิบาย พ.ญ.สิริพร กัญชนะ ประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวถึงข้อดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ว่า จะส่งผลให้เด็กไทยมีสุขภาพที่ดีเมื่อเติบโตขึ้น นมแม่จะช่วยลดความเสี่ยงลดโอกาสของการเกิด 3 โรคร้าย ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคอ้วนได้ ซึ่งจะลดโอกาสการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและเส้นโลหิตอุดตันเมื่อสูงวัย
ที่มา http://www.thaihealth.or.th/node/5514
ตอบ 1.
อธิบาย คือการที่ร่างกายสามารถป้องกันหรือต่อต้านโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะได้ โดยร่างกายจะสร้าง สารประเภทโปรตีนที่เรียกว่าแอนติบอดี(Antibody) ไว้ในเลือด เพื่อทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ที่เข้าสู่ร่างกาย แอนติบอดีอาจมีเพียงชั่วคราวหรือตลอดไปก็ได้ สิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายเราเรียกว่า แอนติเจน (Antigent) ภูมิคุ้มกันโรคแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ที่มา http://www.wt.ac.th/~somyos/ya/ya000003.html
ตอบ 2.
คำอธิบายการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส (meiosis) เป็น การแบ่งเซลล์เพศ (sex call)
ในสัตว์จะพบการแบ่งเซลล์
แบบไมโอซิสในรังไข่ และอัณฑะ ในพืชพบในเรณูหรือรังไข่เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธ์
ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/science03/32/2/genetic/content/meiosis%2002.html
ตอบ 4.
อธิบาย กรดนิวคลีอิก ( nucleic acid ) เป็นสารชีวโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ทำหน้าที่เก็บและถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุ์กรรมของสิ่งมีชีวิต จากรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นต่อไปให้แสดงลักษณะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิต นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและกระบวนการต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิต
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/สารพันธุà¸à¸£à¸£à¸¡
ตอบ 3.
อธิบาย การศึกษาลักษณะทางพันธุกรรมของคน ทำได้โดยการสืบประวัติครอบครัวซึ่งมีลักษณะที่ต้องการศึกษาหลายๆชั่วอายุคน ดังที่นักเรียนทำในกิจกรรม 4.1 จากนั้นนำมาเขียนแผนผังแสดงบุคคลที่ได้รับการถ่ายทอดลักษณะที่ศึกษาเรียกแผนผังดังกล่าวว่า เพดดิกรี(pedigree)โดยใช้สัญลักษณ์แทนบุคคลต่างๆทั้งผู้ที่แสดงและไม่แสดงลักษณะที่กำลังศึกษา หากลักษณะใดมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพดดิกรีจะช่วยให้สังเกตเห็นแบบแผนการถ่ายทอดได้ง่ายขึ้น และอาจช่วยให้บอกได้ว่าลักษณะนั้นๆ เป็นลักษณะเด่นหรือลักษณะด้อย เป็นลักษณะพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพศใดเพศหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ นักเรียนจะได้ศึกษาตัวอย่างเพดดิกรีของลักษณะทางพันธุกรรมต่างๆ ต่อไป
ที่มา http://km.vcharkarn.com/other/mo6/56-2010-07-14-09-20-24
ตอบ 3.
อธิบาย ยีน คือ หน่วยพันธุกรรมที่กำหนดลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต พืช สัตว์ มนุษย์ เช่น ในมนุษย์กำหนดสี และลักษณะของ ผิว ตา และผมความสูง ความฉลาด หมู่เลือด ชนิดของฮีโมโกลบิน รวมทั้งโรคบางอย่าง เป็นต้น ยีนที่ควบคุมกำหนดลักษณะต่างๆ ในร่างกายจะเป็นคู่ ข้างหนึ่งได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อ อีกข้างหนึ่งได้รับมาจากแม่ สำหรับผู้มียีนธาลัสซีเมีย(Thalassemia) มีได้สองแบบคือ
ที่มา http://www.thaibiotech.info/what-is-gene.php
ตอบ 1
อธิบาย โครโมโซมเพศ sex chromosomes
โครโมโซมของคน 23 คู่นั้น เป็น ออโตโซม 22คู่ อีก1คู่เป็น โครโมโซมเพศ
ที่มา http://www.snr.ac.th/elearning/siriporn/sec01p03.html
ตอบ 1
อธิบาย การพบโรคนี้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมักเป็นกับแบบ แดง-เขียวแทบทั้งหมด เนื่องจากว่ายีน ที่ควบคุมการสร้างรงควัตถุรับสีชนิดสีแดง และสีเขียวนั้น (red-pigment gene, green-pigment gene) อยู่บนโครโมโซม X เมื่อยีนนี้ขาดตกบกพร่องไปในคนใดคนหนึ่ง ก็จะทำให้คนนั้นสามารถรับรู้ สีเหล่านั้นได้ลดลงกว่าคนปกติแน่นอนว่าผู้หญิงมีโอกาสเป็นน้อยกว่าเนื่องจากในผู้หญิงมีโครโมโซม X ถึงสองตัว ถ้าเพียงแต่ X ตัวใดตัวหนึ่งมียีนเหล่านี้อยู่ ก็สามารถรับรู้สีได้แล้ว ในขณะที่ผู้ชาย มีโครโมโซม X เพียงตัวเดียว อีกตัวเป็น Y ซึ่งไม่ได้มีแพคเกจบรรจุยีนนี้แถมมาด้วย ;) ก็จะแสดง อาการได้เมื่อ X ตัวเดียวเท่าที่มีอยู่นั้นบกพร่องไป
ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/health03/12/digitallearning/html/colorblindness.html
ตอบ 3
อธิบาย ลักษณะของยีนส์ ในกรุ๊ปเลือดต่างๆ (โดยยีนส์นั้นเป็นตัวกำหนดให้ร่างกายสร้าง Antigen นั้นๆบนผิวเม็ดเลือดแดง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น